วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2552

คั่วจินูน




การไปใต้แมงจินูนสมัยนี่กะบ่คือสมัยก่อน สมัยก่อนเฮาสิใช้แสงสว่างจาก ตะเกียงเจ้าพายุ หรือถ้าบ่มี กะสิใช้ไม้ลำปอ หอบไป เวลาถึงต้นไม้ต้นได๋ที่คึดว่าสิมีแมงจินูน กะจั่งค่อยใต้ไฟขึ้น จูดไม้ลำปอขึ้น แล้วกะ ปูสาด ลงรอบๆกองไฟ แล้วกะใช้ไม้ยาวๆ เคาะง่าไม้ให้แมงจินูนมันตกลง พอแมงจินูนมันตกต้นไม้ มันย่านมันจุก มันกะสิบินขึ้นไปหาแสงสว่าง กะคือกองไฟที่เฮาดังไว้ แล้วมันกะสิตกลงไกล้ๆกองไฟ กะคือตกลงสาดที่เฮาปูไว้ หลังจากนั้น เฮากะเก็บเอาโตแมงจินูนใส่ในคุถัง ที่มีน้ำอยู่ เฮ็ดให้มันบ่สามารถบินหนีได้ พอได้หลายเติบ พอสิได้คั่วพอหม้อแล้วเฮากะกลับบ้าน แต่ว่าการใต้แมงจินูนสมัยเดี๋ยวนี้ เฮาสิใช้แสงสว่างจากไฟแบตเตอรี่เป็นหลัก ส่วนวิธีการต่างๆ กะสิเฮ็ดคือกัน แต่ต้นไม้ที่ไปหาแหย่นั้นกะสิมีต้นบักม่วงเป็นหลัก เพราะว่าทุกมื่อนี่คนปลูกต้นบักม่วงหลาย ส่วนต้นบักขามส้ม ต้นบักเกลือ สิหายากแล้ว เวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการไปใต้แมงจินูนกะคือช่วงเวลาหัวค่ำ ประมาณจักทุ่ม เศษๆ เพราะว่าถ้าไปดึกหลาย แมงจินูนมันกินใบไม้อิ่มแล้ว มันกะสิบินไปหาหลบซ่อนอยู่ในดิน กะสิไต้บ่ได้ พราะว่าแมงจินูนนี่มันสิขึ้นมาหากินใบไม้ เฉพาะเวลายามกังคืน ส่วยยามเดิกและยามกังเว็นมันสิไปหาเฮ็ด ฮูอยู่ในดิน กะเลยมีการหาแมงจินูนอีกวิธีหนึ่งกะคือ ก่นจินูน


จินูน หรือ แมงจินูน เป็นแมลงชนิดหนึ่งที่คนอีสานเฮานำมาเฮ็ดกินเป็นอาหาร ซึ่งกะสิหากินได้ในฤดูร้อน ช่วงเดือน มีนาคม ถึง เมษายน โดยแมงจินูน ที่เฮากินกัน กะมีหลายชนิด และแต่ละชนิดกะสิหาได้ ต่างวิธีกัน แต่ เมื่อหามาได้แล้ว กะสินำมาเฮ็ดแนวกิน ที่คล้ายๆกัน นั่นกะคือนำมา คั่ว แต่บางคน กะเอามาทอด กะแซบ คือกัน แต่ว่าเฮาสิได้รับไขมันส่วนเกินจากน้ำมันที่ทอด บ่ดีคือคั่ว ที่ปราศจากไขมัน การคั่วกะอาจสิคั่วใส่เกลือเฉยๆ กะได้ หรือสิหั่น ตะไคร้ ใบบักกรูดใส่นำ กะแฮ่งหอมแซบ ประเภทและวิธีการหาแมงจินูนแต่ละอย่างกะสิพอสรุปได้ ดังนี้๑.แมงจินูนแดงน้อย ลักษณะกะสิมีโตสีแดงแต่โตบ่ใหญ่เท่าได๋ ชนิดนี้จะมีปริมาณหลาย หาได้โดยวิธีการใต้เอา นำกกบักขาม กกโก กกเกลือ กกม่วง เป็นต้น ๒.แมงจินูนหม่น หรือ แมงจินูนแดง ที่เอิ้นแมงจินูนหม่น กะคือ เวลาเฮาไปใต้นำกกไม้ เวลากลางคืน แมงจินูนชนิดนี้ สิมีแป้งสีขาวๆปกคลุมปีกไว้ เฮ็ดให้เฮาเห็น เป็นสีหม่นๆ แต่ว่าเมื่อมันไปเฮ็ดฮู แป้งมันกะสิลบ เห็นปีกเป็นสีแดง กะเลยเอิ้นว่าแมงจินูน แดง การหากะหาได้โดยการไปหาก่น นำฮู นำตีนโคก โดยเฮาสิสังเกตุ ว่าเป็นขวยจินูน กะคือ มันสิเป็นขวย เพาะเยาะแพะแยะ ข้างๆต้นไม้ต้นน้อยๆ นั่นหละขวยจินูนแดง ส่วนถ้าเป็นขวย แต่บ่อยู่ข้างต้นไม้น้อย อย่าไปก่น บ่แม่นขวยจินูน ๓.แมงจินูนแดงใหญ่ อั่นนี่มีเป็นบางท้องที่ กะคือมันสิมีลักษณะคล้ายๆกับแมงจินูนแดงหรือแมงจินูนหม่น นี่หละแต่โตสิใหญ่กว่า โตใหญ่กว่าโป้มือพุ่นหละ วิธีหากะคือ ไปหาก่นเอาคือกัน ๔.แมงจินูนทอง หรือแมงจินูนเหลี่ยม หรือแมงเหลี่ยม กะเอิ้น แมงชนิดนี้ สิมีสีเขียวมรกต เหลี่ยมแวววาวสวยงาม โตใหญ่เติบ หาได้โดยไปหาต่อยเอานำกกบักม่วง กกกระถินณรงค์ กกบักขามแป เป็นต้น ๕.แมงจินูน อื่นๆ เช่น แมงจินูนดำ นำกกยอ กกคูน แมงจินูนดำน้อย นำกกขาม หรือแมงจินูนอื่นๆอีกแล้วแต่ แต่ละท้องที่สิมี แมงจินูน หรือจินูน นอกจากสิเอามาคั่วแล้ว กะยังสามารถนำมาก้อย เป็นก้อยจินูน ได้คือกัน แต่กะบ่เป็นที่นิยมแพร่หลาย เท่ากับการคั่ว ดอก ข้อควรระวัง ในการกินคั่วแมงจินูน กะคือ เวลาเฮาเข้าห้องส้วมยามมื่อเช้า เฮาสิล้างส้วมยากจักหน่อย เพราะว่า ปีกแมงจินูน มันสิบ่ถืกย่อย มันสิฟูอ่องล่อง อยู่ ต้องใช้น้ำราดหลายๆ วิธีการแก้ไข กะคือ ก่อนกินคั่วแมงจินูน เฮาควร เด็ดปีกมันออก สาก่อน........แล้วกะเคี้ยวให้มันแหลกๆ.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Who stop the rain.